แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ยอมรับว่า ช่วงนี้อะไรก็ไม่เป็นใจ แต่ว่าทีมทำงานกันต่อไป ทุกคนยังมีความเชื่อมั่นว่าจะอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไปได้ หลังเกมแพ้วูล์ฟส์คาบ้าน 1-0

“ประตูเปลี่ยนเกม เพราะมันเปลี่ยนบรรยากาศในสนามโดยสิ้นเชิง พวกเราพยายามตอบโต้เพื่อกลับสู่เกม และพอพวกเราเริ่มจะทำได้ ก็มาเหลือผู้เล่นน้อยกว่าในช่วงท้ายเกมอีก นั่นคือทั้งหมดที่เราแพ้ และต้องดูกันต่อไป” แลมพาร์ด กล่าว

“เมื่อคุณอยู่ในโมเม้นต์ที่สิ่งต่างๆไม่เป็นใจ คุณต้องทำงานกันต่อไป ตราบจนกระทั่งสิ่งนั้นจะเข้าข้างคุณ พวกเรามีความเชื่อกันที่นี่ แต่ตอนนี้มันเกิดเรื่องยาก”

“มันก็นานแล้วที่เราไม่ชนะในเกมที่พวกเราต้องการ พวกเราจะต้องสู้กันต่อไป ทำงานกันต่อไป ง่ายๆเท่านั้นเอง”

“พรีเมียร์ลีกให้เกมที่ยากกับคุณในทุกนัด พวกเราต้องหาจุดเปลี่ยน มันเกิดขึ้นได้จากการทำงานและก็ความมั่นใจและความเชื่อมั่น ทุกคนต้องการสิ่งเดียวกันที่นี่ พวกเราปรารถนาที่จะอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไป แต่อย่างแรกที่ต้องทำก็คือ สู้กันต่อไป”

สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีมฟุตบอลของ แอสตัน วิลล่า ยอมรับว่าการเซ็นสัญญาถาวรกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ยังไม่ใช่เรื่อง่ายแม้นักเตะจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมก็ตาม

นักเตะ วัย 29 ปี ที่พึ่งย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาร่วมทัพ “สิงห์ผงาด” ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลพร้อมออปชั่นซื้อขาดที่ 40 ล้านยูโร ในขณะที่นักเตะกำลังโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมทำไป 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 8 นัดในลีก

โดยหลังจบที่เจ้าตัวยิงไปอีก 1 ประตูช่วยทีมบุกไปชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-0 กุนซือชาวอังกฤษ ก็กล่าวถึงการเซ็นสัญญาถาวรกับนักเตะอีกครั้งว่า

“ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คือนักฟุตบอลที่ดูแล้วเพลิดเพลินมากมาย เรารักเขาตรงนี้” เจอร์ราร์ด กล่าว

“ส่วนการซื้อขาดเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่าที่ผู้คนคิด ออปชั่นมันมีอยู่แล้ว ถ้าเป็นเงินของผมเองคุณก็อาจจะรู้คำตอบดี”

สื่อดังแดนกระทิงอย่าง Mundo Deportivo เผยว่า เชลซี ไม่ประทับใจวิธีการที่ทาง บาร์เซโลน่า โน้มนาวอยากจะคว้าตัว เซซาร์ อัซปลิกวยต้า และพวกเขาอาจจะพิจารณาใช้ออปชั่นขยายสัญญากับนักเตะ

ทัพ “ต่างดาว” ตกเป็นข่าวตลอดว่าพวกเขามุ่งมั่นจะคว้าตัว 2 กองหลังคนสำคัญของ “สิงห์บลูส์” อย่าง อัซปลิกวยต้า และ อันเดรส คริสเตนเซ่น มาร่วมทีมแบบฟรีเอเยนต์หลังนักเตะกำลังจะหมดสัญญากับทีมในตอนซัมเมอร์นี้

โดยในกรณีของ คริสเตนเซ่น นั้นสื่อหลายที่รับรองตรงกันว่านักเตะได้บรรลุข้อตกลงกับสโมสรใหม่เป็นระยะเวลา 5 ปี และมีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามจากรายงานล่าสุดเผยว่าทาง เชลซี ไม่ชอบใจกับวิธีการทาบทามนักฟุตบอลของทาง บาร์เซโลน่า แล้วก็อาจจะใช้ออปชั่นในสัญญาซึ่งสามารถขยายข้อตกลงเพิ่มอีกหนึ่งปีจนถึงกลางปี 2023

ทำให้บางทีก็อาจจะเป็นกรณีเดียวกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ทางสโมสรเลือกใช้ออปชั่นดังกล่าวมาแล้วก่อนที่นักเตะจะย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน แบบมีค่าตัวเล็กน้อย

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ปีกตัวเก่งของ หงส์แดง มองว่าการผ่านเข้ารอบสำคัญที่สุดหลังปิดบ้านแพ้ให้กับ อินเตอร์ มิลาน 1-0 และพูดติดตลกว่าเกมหน้าเขาอาจจะทำแฮตทริกได้หลังยิงชนเสาไป 2 หน

ทัพ “ลิเวอร์พูล” พึ่งจะปิดจ็อบผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกแชมเปี้ยนส์ลีก แบบเขิลอายนิดหน่อยหลังเปิดบ้านแพ้ให้กับ “อินเตอร์ มิลาน” 1-0 แต่ยังผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2-1

โดยในเกมดังกล่าวพวกเขาพลาดโอกาสได้ประตูจากจังหวะที่ไม่เป็นใจหลังยิงชนคานไป 1 ครั้งและชนเสาอีก 2 ครั้ง

“เป็นคู่ปรับที่ยากมาก ยังดีที่เราคว้าแชมป์จากเกมเยือนมาได้และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการผ่านเข้ารอบ” ซาล่าห์ กล่าวกับ BT Sport หลังจากจบเกม

“วันนี้ผมยิงชนเสาไป 2 หน แต่ก็ไม่เป็นไร บางทีเกมหน้าผมอาจจะยิง 3 ลูกก็ได้”

“ผมไม่คิดอะไรมากมายขอให้กลุ่มผ่านเข้ารอบสำคัญที่สุด เราแพ้ก็จริงแต่มันก็อาจจะช่วยผลักดันพวกเราได้เล็กน้อยและเป็นเกมที่ดีที่เราจะได้ศึกษาจากมัน”

“ทุกคนก็ต้องการจะคว้าทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีก เพราะฉะนั้นเราจะสู้สุดกำลังทั้งสองรายการและหลังจากนั้นก็ค่อยมาดูกันอีกครั้ง”

เธียร์รี่ อองรี อดีตแข้งชื่อดังมองว่า ลิโอเนล เมสซี่ ได้รับผลกระทบกระเทือนทางอารมณ์ภายหลังย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า แบบไม่คาดคิด

แข้งวัย 34 ปี พึ่งจะอำลากองทัพ “ต่างดาว” ที่ฝากตำนานไว้กว่า 21 ปี ย้ายมาเล่นให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่ว่าผลงานโดยรวมของเจ้าตัวยังคงไม่ถึงระดับที่ถูกคาดหวังจนตกเป็นเป้าวิจารณ์มาต่อเนื่อง

ทางด้านอดีตสหายร่วมทีมอย่าง อองรี กลับมองว่านักเตะได้รับผลกระทบจากการย้ายทีมดังกล่าว

“ตอนที่ ลิโอเนล ต้องเสียน้ำตาตอนย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า นั่นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผน เมื่อคุณมีความรู้สึกว่าคุณจะไม่มีทางได้จากสถานที่ใดที่หนึ่ง แต่ว่ามันกลับเกิดขึ้นทันทีทันใด ประเด็นนี้มันสร้างความกระทบกระเทือนทางอารมณ์” อองรี กล่าวกับ L’Equipe

“ผู้คนอาจจะบอก ‘เขาไม่มีปัญหาอะไรนะ เขามีทั้งหมดทุกอย่างที่ต้องการที่ PSG แต่ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”

“ตอนที่ผมย้ายออกจาก อาร์เซน่อล มาอยู่กับ บาร์เซโลน่า มันต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าผมจะรู้สึกดี ผมไปพร้อมกับอาการบาดเจ็บ ต้องผ่านตอนหย่าร้อง และจะต้องเรียนรู้ระบบใหม่ คุณเอาทุกเรื่องมาปนกันและมันมีผลกับภาวะจิตใจ”

ราล์ฟ รังนิค ผู้จัดการทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สารภาพว่า ต้องใช้เวลาอีกนานที่กองทัพปิศาจแดงจะลดช่องว่างขยับเข้าไปใกล้เคียงแมนเชสเตอร์ ซิตี้

บอกประตูที่ 3 สุดสวยของ ริยาด มาห์เรซ เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกมนี้ของพวกเขาจบลง หลังจากเกมยูไนเต็ด ออกนอกบ้านไปโดนทัพเรือใบสีฟ้า กระหน่ำระเจิง 4-1

“เราเสียประตูเร็ว และกลับมาได้จากประตูสุดสวยที่มาจากตัวเราเอง จากนั้นก็มาเสียประตูให้พวกเขาอีกจากเกมโต้กลับ มันเป็นเกมที่ยากมากเมื่อจะต้องแข่งกับหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก” รังนิค กล่าว

“มันเป็นเกมที่ยากที่ทำให้เรารู้ว่าหนทางยังอีกยาวไกลที่จะลดช่องว่างเข้าไปใกล้พวกเขา”

“มันเห็นผล, สำหรับเราเด่นชัดเลยว่า ถ้าเกิดเราต้องการเป็นผู้ชนะ เราต้องวิ่งเยอะๆเยอะมากๆจำเป็นต้องเล่นเกมรุกรวมทั้งอยู่ในโหมดนักล่า เราทำมันได้ในครึ่งแรก แต่ว่าประตูที่ 3 มันทำให้ทุกอย่างจบ”

“มันเป็นเรื่องยากที่จะดันเปิดเกมรุกสูงใส่พวกเขา ประตูที่ 3 เป็นลูกเตะมุมที่ยอดเยี่ยมมาก มันแทบไม่มีทางป้องกันได้เลย ส่วนครึ่งหลังพวกเขาเป็นทีมที่ดีมากกว่า พวกเขาโชว์ให้มองเห็นถึงคุณภาพ เราจะต้องดิ้นรนอย่างหนักโดยเฉพาะลูกยิงโดยประตูที่สาม

รายงานข่าวจาก เดอะ ไทม์ ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้มีผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบางคนกำลังข้องใจที่ แฮร์รี่ แมคไกวร์ ยังถูกเลือกเป็นตัวจริงในขณะที่ฟอร์มการเล่นดิ่งลงเหวเป็นบ่อในแนวรับระยะหลังนี้

ฤดูนี้ฟอร์มการเล่นของ แมคไกวร์ ตกลงไปอย่างมาก จนทำให้แฟนบอลจำนวนมากตั้งคำถามในความสามารถของเขา รวมถึงตำแหน่งกัปตันทีมและเพราะเหตุใดถึงยังได้เล่นเป็นตัวจริง หลังมีความรู้สึกว่าตอนนี้ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ หรือ เอริค ไบญี่ เป็นทางเลือกเข้าคู่กับราฟาเอล วาราน ที่ดีกว่า

ล่าสุด เดอะ ไทม์ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่แฟนบอลที่ข้องใจ ผู้เล่นยูไนเต็ดบางคนก็เริ่มตั้งข้อซักถามเป็นการส่วนตัวถึงการเลือกตัวจริงของราล์ฟ รังนิค แล้ว

ผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานของยูไนเต็ดและฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลง ทำให้เพื่อนร่วมทีมไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เกมแพ้ที่ต่อเลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 เมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมา

มันโยงไปถึงความไม่พอใจที่สโมสรที่แต่งตั้ง แมคไกวร์ เป็นกัปตันทีม ทั้งที่พึ่งย้ายมาจากเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ประมาณ 6 เดือนด้วย

ปัญหาสงสัยในความสามารถของแมคไกวร์ แผ่ขยายมากขึ้นหลังก่อนหน้าที่ผ่านมาพึ่งมีข่าวกำลังจะสูญเสียอำนาจหัวหน้าในทีม หลังเชื่อกันว่า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เข้ามามีหน้าที่ในกลุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นอาจได้รับปลอกแขนดูแลทีมแทน

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา รังนิค ออกมาสยบข่าวโคมลอยดังกล่าว เมื่อยืนกรานว่า เซ็นเตอร์แบ็ก ทีมชาติอังกฤษจะปฏิบัติหน้าที่เป็นกัปตันทีมต่อไป

รายงานข่าวจาก เดอะ ไทม์ ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้มีผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบางคนกำลังข้องใจที่ แฮร์รี่ แมคไกวร์ ยังถูกเลือกเป็นตัวจริงในขณะที่ฟอร์มการเล่นดิ่งลงเหวเป็นบ่อในแนวรับระยะหลังนี้

ฤดูนี้ฟอร์มการเล่นของ แมคไกวร์ ตกลงไปอย่างมาก จนทำให้แฟนบอลจำนวนมากตั้งคำถามในความสามารถของเขา รวมถึงตำแหน่งกัปตันทีมและเพราะเหตุใดถึงยังได้เล่นเป็นตัวจริง หลังมีความรู้สึกว่าตอนนี้ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ หรือ เอริค ไบญี่ เป็นทางเลือกเข้าคู่กับราฟาเอล วาราน ที่ดีกว่า

ล่าสุด เดอะ ไทม์ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่แฟนบอลที่ข้องใจ ผู้เล่นยูไนเต็ดบางคนก็เริ่มตั้งข้อซักถามเป็นการส่วนตัวถึงการเลือกตัวจริงของราล์ฟ รังนิค แล้ว

ผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานของยูไนเต็ดและฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลง ทำให้เพื่อนร่วมทีมไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เกมแพ้ที่ต่อเลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 เมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมา

มันโยงไปถึงความไม่พอใจที่สโมสรที่แต่งตั้ง แมคไกวร์ เป็นกัปตันทีม ทั้งที่พึ่งย้ายมาจากเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ประมาณ 6 เดือนด้วย

ปัญหาสงสัยในความสามารถของแมคไกวร์ แผ่ขยายมากขึ้นหลังก่อนหน้าที่ผ่านมาพึ่งมีข่าวกำลังจะสูญเสียอำนาจหัวหน้าในทีม หลังเชื่อกันว่า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เข้ามามีหน้าที่ในกลุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นอาจได้รับปลอกแขนดูแลทีมแทน

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา รังนิค ออกมาสยบข่าวโคมลอยดังกล่าว เมื่อยืนกรานว่า เซ็นเตอร์แบ็ก ทีมชาติอังกฤษจะปฏิบัติหน้าที่เป็นกัปตันทีมต่อไป

ทีม “หงส์แดง” ที่เพิ่งจะคว้าชัยชนะ คาราบาว คัพ มาเมื่อสุดสัปดาห์ ยังรักษาโมเมนตั่มขนทีมสำรองเปลี่ยน 10 ตำแหน่งเปิดบ้านเอาชนะ “นกขมิ้น” มา 2-1 ผ่านเข้ารอบถัดไปของศึก เอฟเอ คัพ มีลุ้นแชมป์อีกรายการ

“ถ้าเกิดคุณเปลี่ยนทีม 10 คนรวดคุณคงมาคาดหวังความเพอร์เฟ็คไม่ได้ พวกเรามีเกมที่ดีเยี่ยม คอนโทรลเกมได้ พวกเรานิ่งพอที่จะเปิดช่องว่างของพวกเขาและยิงประตูที่มหัศจรรย์” คล็อปป์ กล่าวกับ BBC Sport หลังจบเกม

“พวกเราไม่ได้ปิดเกมมันก็เลยยังเปิดกว้าง พวกเขายิงประตูได้และเราต้องสู้เพื่อปิดจ็อบให้มันจบ แต่ก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร ผมก็พอใจกับฟอร์มของทีม”

“พวกเราลงแข่งขัน 4 รายการ เวลานี้เหลืออีก 3 เนื่องจากประสิทธิภาพของขุมกำลังทีม หากถ้าเราทำได้แบบนี้ได้ตลอดแบบหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เราก็อาจจะทำการเปลี่ยนทีมไป 10 คนรวมทั้งยังมีม้านั่งสำรองที่สร้างอิมแพคต์ได้ เป็นอะไรที่โอเคมาก”

“คืนนี้ มินามิโนะ เล่นได้เยี่ยมมาก เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดที่เขาเล่นให้กับเรา เขากำลังอยู่ในโมเม้นต์ที่ดี ส่วน เคอร์ติส โจนส์ ก็มีครึ่งแรกที่น่าทึ่งเช่นกัน”

“เรายังมีเกมกับ เวสต์แฮม ในวันเสาร์ รวมทั้ง อินเตอร์ ในวันอังคาร โปรแกรมมันบ้ามาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเปลี่ยนหลายตำแหน่ง”

“ผมแฮปปี้ที่เด็กๆใช้โอกาสของพวกเขาได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีมากที่พวกเขาสามารถพิสูจน์ตนเองได้ว่าพวกเขาดีแค่ไหน”

สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือของ เอซีมิลาน พึงพอใจกับฟอร์มของทีมรวมทั้งผลที่เกิดจากการแข่งขันหลังเกมที่เสมอกับ อินเตอร์ มิลาน 0-0 ในศึก โคปปา อิตาเลีย รอบรองชนะเลิศ

ทัพ “รอสโซเนรี่” ของกุนซือชาวอิตาเลี่ยน เพิ่งลงเล่นในฐานะเจ้าบ้านเสมอกับ “งูใหญ่” ไปแบบไร้สกอร์ ก่อนที่จะได้ลงเล่นในสนามเดิมอีกทีในฐานะทีมเยือนเพื่อตัดสินผู้เข้ารอบชิงฯ ตอนกลางเดือนหน้า

โดยพวกเขาจะได้เปรียบเล็กน้อยเพราะว่ามีทางเลือกซึ่งสามารถผ่านเข้ารอบถ้าหากเสมอแบบมีประตูในนัดหน้า

“มิลาน เล่นได้ดีแล้วก็สมควรจะได้อะไรมากกว่านี้ แต่ถ้าเรามอง โดยรวมจากการจำเป็นต้องเล่นสองนัดถือได้ว่าผลการแข่งขันที่ดีแล้ว ถึงแม้ผมจะมีความรู้สึกว่าเราสมควรจะชนะก็ตาม”

ปิโอลี่ กล่าวกับ มีเดียเซ็ต หลังจบเกม

“แต่มันก็แค่ผลที่เกิดจากการแข่งขันส่วนแรก เราทราบดีว่านัดที่สองจะเป็นเกมที่ยาก แต่ว่าผมก็ยังพึงพอใจกับฟอร์มการเล่นของทีม”

“เราพัฒนาขึ้นมาตลอด 2 ปีครึ่ง เราอยากจะคว้าชัยชนะอะไรสักอย่างรวมทั้งทำให้ซีซั่นนี้มันดีที่สุด”